วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ต้นวาสนา



ต้นวาสนา

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dracaena fragrans (L.) Ker-GawI.
ชื่อสามัญ : Cape of Good Hope, Dracaena
ชื่ออื่น : ประเดหวี มังกรหยก (กรุงเทพฯ)
วงศ์ : AGAVACEAE
ถิ่นกำเนิด : เอธิโอเปีย ไนจีเรีย กินี

ดูการออกดอก :  ช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือน พ.ย. - ม.ค.
เวลาที่ดอกหอม  :  ช่วงเย็นถึงมืด หรือช่วงที่มีอากาศเย็น



ลักษณะทางพฤษศาสตร์
  • ลำต้น
    ลักษณะวิสัย  : ไม้พุ่ม
  • เรือนยอด ทรงพุ่ม : ทรงกระบอก
  • ถิ่นอาศัย : พืชบก
  • ลำต้น : ลำต้นเหนือดิน  ตั้งตรงเองได้
  • เปลือกลำต้น : เรียบ  สีน้ำตาลอมเทา
  • ยาง : ไม่มี
  •  ชนิดของใบ : ใบเดี่ยว    สีเขียวแกมเหลือง  ขนาดใบ กว้าง 7  ซ.ม.  ยาว 50 ซ.ม. ลักษณะพิเศษของใบ  ขอบใบขนาน  ปลายใบแหลม
  • รูปร่างแผ่นใบ : รูปขอบขนาน
    ใบ
  • ปลายใบ : แหลม
  • โคนใบ : สอบเรียว
  • ขอบใบ : เรียบ
  • ดอก : ดอกช่อแยกแขนง 
  • ตำแหน่งออกของดอก : ซอกใบ
    ดอก
  • กลีบดอก : กลีบดอกแยกกัน  มี 6 กลีบ  สี  ขาวออกเหลืองอ่อนๆ
  • เกสรเพศผู้ : จำนวน 1 อัน  สีขาว
  • เกสรเพศเมีย : จำนวน 6 อัน  สีเหลือง
  • รังไข่ : รังไข่ใต้วงกลีบ
  • กลิ่น : กลิ่นฉุย
  • ผล : ผลสดเป็นผลเมล็ดเดียวแข็ง
  • สีของผล : ผลอ่อน สีแดง  ผลแก สีเหลือง
  • ราก
    รูปร่างผล : รี
  •  ลักษณะพิเศษของผล : ผิวเรียบ
  • เมล็ด : จำนวน 1 เมล็ด
  • สีของเมล็ด : สีเหลือง
  • รูปร่างเมล็ด : รี

วิธีการปลูก
การปลูกต้นวาสนา มี 2 วิธี ดังนี้
       1. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก
       2. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูงขนาด 10- 18 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : แกลบผุ :ดินร่วนอัตรา 1:1:1 ผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถาง 1-2 ปี/ครั้ง หรือแล้วแต่ความเหมาะสม เช่น การขยายตัวของราก เมื่อรากแน่นเกินไปก็ควรจะเปลี่ยนกระถาง หรือ เพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทดแทนดินเดิมที่เสื่อมสภาพไป

การดูแลรักษา
       เป็นพืชที่ชอบแดดจัดแต่ก็อยู่ในที่ร่มรำไรได้ ควรหมั่นรดน้ำ เพื่อให้ดินชุ่มน้ำอยู่เสมอแต่อย่าให้แฉะ ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดเดือนละครั้ง หมั่นทำความสะอาดใบ โดยใช้ผ้าเช็ดก็จะดี ช่วยป้องกันแมลงจำพวกเพลี้ยได้
       ดิน ชอบดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย มีความชื้นปานกลางจนถึงสูง 
       ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 5-6 ครั้ง
       น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลางจนถึงมาก ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง              

       แสง ต้องการแสงแดดอ่อนรำไร จนถึงแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง              
       อุณหภูมิ ต้นวาสนาเป็นไม้ที่ชอบอากาศหนาวเย็น จึงควรปลูกในอุณหภูมิประมาณ 10-18 องศาเซลเซียส จึงจะเหมาะสม และหากต้องการให้ต้นวาสนาออกดอก ควรปลูกในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส
       ความชื้น ต้องการความชื้นสูง
       น้ำ ต้องการน้ำมาก
       อัตราการคายความชื้น ปานกลางถึงมาก
       อัตราการดูดสารพิษ มาก

การขยายพันธุ์
       วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การปักชำ โดยการตัดลำต้นเป็นท่อน ๆ ยาวประมาณ 6-8 นิ้ว จากนั้นนำลงแช่น้ำในถาดตื้น ๆ จนแตกหน่อ แล้วจึงนำไปปลูกลงในดิน และหมั่นรดน้ำ เพื่อให้เจริญเติบโตเป็นต้นวาสนาที่สวยงามต่อไป

ประโยชน์ของต้นวาสนา
       ต้นวาสนาเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีใบสวยงาม เวลาออกดอกจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ นิยมนำมาเป็นไม้ประดับประจำบ้าน   นอกจากนี้คนไทยโบราณเชื่อว่า หากปลูกต้นวาสนาไว้ในบ้าน และดูแลอย่างดี จนต้นวาสนาออกดอก จะช่วยให้คนในครอบครัวนั้นได้รับโชคลาภ   ต้นวาสนานี้จัดเป็นไม้มงคลที่ขึ้นชื่อ  อีกทั้งยังมีชื่อต้นที่เป็นมงคล จึงเป็นต้นไม้ยอดนิยมที่ใคร ๆ ต่างนิยมปลูกเพื่อเสริมโชคลาภตามความเชื่อนั่นเอง
       - ใบ        แก้ปวดท้อง
       - ราก      บรรเทาอาการปวดในการคลอดบุตร

ความเชื่อโบราณ
       ต้นวาสนา ถือเป็นไม้เสี่ยงทาย ถ้าหากใครก็ตามสามารถปลูกต้นวาสนาได้สวยงามและออกดอกได้ เชื่อว่าจะทำให้มีโชคลาภปรารถนาสิ่งใดก็จะได้ดังหวังดังที่ต้องการ
สำหรับต้นวาสนาอธิษฐานไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ปลูกควรปลูกในวันอังคาร เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทางใบ ให้ปลูกในวันอังคาร ถ้าจะ ให้เป็นมงคลยิ่งขึ้นผู้ปลูกควรเป็นสภาพสตรี เพราะวาสนาอธิษฐานเป็นชื่อที่เหมาะสมกับสุภาพสตรีนั่นเอง


จัดทำโดย
       น.ส.ธนัฏฐา  แสงสีนิล ม.5/1 เลขที่ 27
       น.ส.ศุภนิดา  เรืองเดช  ม.5/1 เลขที่ 33

แหล่งอ้างอิง